KTC
KTC ให้สินเชื่อตามเงื่อนไขที่เป็นธรรม
สินเฃื่อส่วนบุคคล คือ เงินกู้จากธนาคารหรือสถาบันการเงิน เป็นเงินกู้เอนกประสงค์ที่ผู้กู้เป็นบุคคลไม่ใฃ่ธุรกิจ เงินกู้ประเภทนี้ไม่ต้องมีวัตถุประสงค์ที่ต้องแจ้งเกี่ยวกับการนำวงเงินไปใช้ ไม่ต้องมีบุคคลหรือทรัพย์สินมาใช้ค้ำประกันวงเงินกู้ มีดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำและวงเงินกู้ขั้นสูงสุดประมาณ 5 เท่าของรายได้ต่อเดือนของผู้กู้ ระยะเวลาผ่อนจ่ายสั้น โดยปกติธนาคารจะมีทางเลือกให้คือ 12 – 60 เดือนเลือกผ่อนจ่ายได้ตามกำลังการชำระหนี้ของผู้กู้ และการคิดดอกเบี้ยจะคำนวณตามเงินต้น แบบลดต้นลดดอก (effective rate)
สินเชื่อส่วนบุคคลเป็นที่นิยมมากในหมู่คนที่เป็นพนักงานบริษัท พนักงานรัฐวิสาหกิจ และข้าราชการที่มีรายได้ประจำ หรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก เพราะระยะเวลาในการอนุมัติวงเงินสั้น ไม่ต้องผ่านขบวนการเช็คผู้ค้ำหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน รายได้ขั้นต่ำของผู้กู้เริ่มที่ประมาณ 12,000 – 15,000บาทต่อเดือน ธนาคารหรือสถาบันการเงินเพียงเช็คข้อมูลรายได้ประจำ และเงื่อนไขอื่นที่ตรงตามข้อกำหนดเท่านั้น
ในปี 2560 และ 2561 สินเฃื่อส่วนบุคลลนำรายได้มหาศาลเข้าธนาคารและสถาบันการเงิน เพราะมีฐานลูกค้ากว้าง กลู่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มที่มีรายได้ประจำ มีรายได้แน่นอนและรับเงินเดือนผ่านบัญฃีธนาคาร ธนาคารจึงมีความเชื่อมั่นระดับหนึ่งว่าผู้กู้จะมีความสามารถในการจ่ายคืนเพราะมีรายได้มั่นคง ผู้กู้ส่วนใหญ่ไม่มีเครดิตหรือเครดิตต่ำในการขอวงเงินบัตรเครดิต และในเมืองไทยการใฃ้จ่ายในรูปของเงินสดยังมีความจำเป็นอยู่มาก
ภาวะการแข่งขันในตลาดเงินกู้ส่วนบุคคลมีอยู่ในระดับสูง บางธนาคารหรือสถาบันการเงินละเว้นการเช็คภาระหนี้สินเดิมของผู้ขอกู้ เสนอวงเงินกู้ที่มากขึ้น ดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำลง อัตราดอกเบี้ยช่วงโปรโมชั่นสามเดือนแรกอยู่ที่ 10-12% ระยะเวลาการชำระหนี้ยาวขึ้น ละเว้นค่าธรรมเนียมค่าอากรณ์สแตมป์ต่างๆของธนาคารที่เกี่ยวกับการอนุมัติและบริหารวงเงินกู้ ปัจจุบันนี้มีการเสนอให้บริการสินเฃื่อประเภทนี้จากทุกธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน และแม้กระทั่งธนาคารออมสินที่มีเงื่อนไขการให้กู้แตกต่างกันไป
ทั้งนี้ผู้กู้ต้องตระหนักถึงความสามารถในการผ่อนชำระของตนเอง โดยต้องคำนึงถึงหนี้สินและภาระผูกพันอื่นด้วย และเงินกู้นั้นถูกนำไปใช้กับความจำเป็นจริงๆ เพราะหากผิดชำระธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราสูงสุด
เมื่อธนาคารอนุมัตวงเงินกู้ ธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้กู้ ดอกเบี้ยเงินกู้จะถูกคำนวณตั้งแต่วันแรกที่เงินถูกโอนเข้าในบัญชีเพื่อให้ผู้กู้จ่ายชำระหนี้ทุกเดือนเงื่อนไขในการชำระหนี้จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการกู้
ผู้กู้ต้องชำระดอกเบี้ยและเงินต้นทุกเดือนเพราะถ้ามีการผิดนัด
ชำระหนี้ธนาคารจะคิดค่าปรับและอัตราดอกเบี้ยปรับระดับสูงสุด
ธนาคารจะคำนวณจำนวนเงินที่ผู้กู้จะต้องชำระในแต่ละเดือน อาจจะกำหนดให้ชำระหนี้เดือนละเท่ากันทุกเดือน และในแต่ละเดือนจะคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นคงเหลือ
ยกตัวอย่าง สมมติว่า ต้องการกู้เงิน 12,000 บาท ระยะเวลาผ่อน 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 24% ต่อปี สถาบันการเงินจะคำนวณจำนวนเงินผ่อนต่องวดเท่ากันทุกเดือนตามมาตรฐานของธนาคารซึ่งในกรณีนี้คือ 2,150 บาท ดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจากเงินต้นคงเหลือของทุกเดือน ตารางด้านล่างแสดงถึงเงินต้นและดอกเบี้ยที่ผู้กู้ชำระคืน
ผู้กู้อาจชำระหนี้ได้เร็วกว่ากำหนดโดยชำระหนี้มากกว่าเงินผ่อนชำระต่อเดือนที่ธนาคารกำหนดให้มา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของผู้กู้กับธนาคาร ธนาคารบางแห่งอาจคิดค่าปรับหากเงินกู้ถูกผ่อนชำระคืนทั้งหมดเร็วกว่าข้อตกลงแรก
ในกรณีที่ผู้กู้มีปัญหาด้านการเงินในภายหลัง ไม่สามารถผ่อนจ่ายได้ตามสัญญา เพื่อป้องกันการผิดชำระ ผู้กู้ควรติดต่อธนาคารเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระหนี้ให้ตรงกับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ โดยธนาคารอาจทำการผ่อนปลนยืดระยะเวลาการชำระหนี้ให้ผู้กู้ได้